บันทึกการเดินทางไปเก็บตัวอย่าง ที่ต้นน้ำชี ภูเขียว, ต้นน้ำป่าสัก อ.ด่านซ้าย และน้ำตกคริ้ง & น้ำตกธารสวรรค์ อ.นาแห้ว จ.เลย 22-26 มี.ค. 2542 | Page 1

          ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตัวอ่อนของแมลงน้ำเริ่มโตเป็นตัวเต็มวัย (เริ่มออกบิน) ทีมงานวิจัยโครงการ EPT จึงได้ส่งทีมงาน ออกปฏิบัติการ "ลุย" เก็บตัวอย่างอีกครั้ง!!

          22 มีนาคม พ.ศ. 2542 อากาศยามเช้าครึ้มๆ เมฆลอยต่ำ ทีมงานซึ่งประกอบด้วย คุณประยุทธิ์,คุณอนุ และนายอาษา รวมตัวพร้อมกันที่ศูนย์อนามัยสิ่งแวดล้อมเขต 6 ขณะที่ คุณอนุเข้าไปเคลียร์งานบางอย่าง คุณประยุทธิ์ ก็ถือกล้องเข้าไปเก็บภาพใครหลายคน (เน้นสาวๆ) รวมทั้งตัวเองด้วย (บ้ากล้อง) (คลิกดูที่นี่!!!)

          ออกเดินทางท่ามกลาง สายฝนโปรยปราย แวะทานอาหารเช้า ตอน 10.30 น. ที่ดอนโมง ,แวะซื้อ ยาแก้หวัด ก่อนขับรถฝ่าสายฝน ที่ตกตลอด เส้นทางจนถึง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ แวะซื้อเครื่องครัว ผักต่างๆ ไข่ หมู+ เครื่องกระป๋อง ฯลฯ หมดเกือบ 500 บาท แล้วขับรถมุ่งหน้าสู่ เขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่า ภูเขียว ซึ่งฝนไม่ตกเลย!! หลังจากผ่านด่านเข้าเขตรักษาพันธุ์ เจ้าหน้าที่ที่ด่าน ได้วิทยุไปแจ้งคุณเมืองมนต์ ทองลาด เจ้าหน้าที่ป่าไม้รอรับคณะทีมงาน อยู่ที่หน้า สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จากนั้น คุณเมืองมนต์ได้พาทีมงาน ไปพบหัวหน้าเขตฯ (หัวหน้ากิตติ) ที่นั่งคุมงานอยู่ที่สนามหน้า หน้าพระตำหนักฯ ที่ทุ่งกระมัง หลังจากแจ้งหัวหน้า กิตติแล้ว ทีมงานก็ขนสัมภาระมาไว้ ที่บ้านขุนแผน (บ้านคุณเมืองมนต์)


จากนั้นเริ่มงาน ไปเก็บตัวอย่างที่ ลำน้ำพรม ซึ่งวันนี้ เขื่อนจุฬาภรณ์ระบายน้ำ จากเขื่อนลงมา ทำให้ sampling ตัวอ่อนแมลงน้ำได้ น้อยชนิดกว่าทุกๆครั้ง ที่ผ่านมา หลังจาก sampling ตัวอ่อนเสร็จ ก็มานั่งพักเหนื่อย ที่ลานจันทร์ จน 5 โมงเย็น ก็วาง light tap ที่ใกล้ๆลานจันทร์ ลำน้ำพรม ในระหว่าง ที่รอวาง light tap อยู่นั้น คุณประยุทธิ์เหลือบไป เห็นต้น ผักเกษตร อยู่ใกล้ๆ เลยรีบวิ่งรี่ ปีนขึ้นหักเอาผักเกษตร ลงมากอใหญ่ มานั่งกินรอเวลาวาง light tap ,หอบไปให้กวางที่ บ้านพัก คุณเมืองมนต์ และเอาไว้กินกับอาหารเย็น มื้อนี้ด้วย

          อาหารเย็น คุณประยุทธิ์ โชว์ฝีมือทำลาบไก่ คุณอนุ ทำ โหลน แกงหน่อไม้ เป็นที่เอร็ดอร่อยยิ่งนัก สมควรเปิดร้านอาหารได้ซะที การได้มาพักผ่อนใน ป่าเงียบๆเช่นนี้ เป็นการผ่อนคลายหลายๆ อย่าง คุณอนุซึ่งทำงานหนัก ไม่มีสิทธิ์ป่วย ก็ได้พักผ่อนจากงานที่ ขอนแก่น มีเรี่ยวมีแรงไปลุยงานต่อไปได้ หลังจากคุยจน ออกรส แบะจิบเหล้าได้ที่ คุณประยุทธิ์และ นายอาษา ก็กางเตนท์นอน นอกบ้านขุนแผน ส่วนคุณอนุก็นอน ข้างในบ้านกะคุณเมืองมนต์ อากาศเย็นๆ คล้ายฤดูหนาว ซึ่งแตกต่างกับที่ขอนแก่นและ ที่อื่นๆ ซึ่งร้อนมากๆ

          23 มีนาคม พ.ศ.2542หลังจากอาหาร เช้าผ่านไป ก็เก็บข้าวของขึ้นรถ เตรียมสำรวจ ต้นน้ำชี โดยจะแวะบ้านภรรยาคุณเมืองมนต์ ที่ บ้านนาหนองทุ่ม ทางไป อ.ภูเขียวก่อน ระหว่างทางที่ลงจาก ทุ่งกระมัง สภาพอากาศมีหมอก หนาจัดในบางช่วง หูอื้อตลอดการเดินทาง ลงจากภูเขียวแล้วก็พบกับอากาศร้อน อย่างเคยทีมงานก็แวะมารอรับคุณเมืองมนต์ ผู้นำทางที่บ้านนาหนองทุ่ม ซึ่งที่บ้าน นาหนองทุ่มนี ้จะมีแผงไม้ตาก เส้นใบยาสูบ ที่จะมีบริษัทมาซื้อเอาไปทำบุหรี่ ชาวบ้านแถวนี้จึง ไม่นิยมเดินทาง เข้าไปหางานทำ ใน กทม. เพราะที่นี่มีงานทำกันอยู่แล้ว ทีมงานพร้อมคุณเมืองมนต์ก็เดินทาง มุ่งสู่ต้นน้ำชีทันที ระหว่างทาง ก็แวะซื้อ "หม่ำ" ของโปรดของ คุณอนุ ซึ่งเป็นหม่ำ ชนะเลิศการประกวดหม่ำ หมดไป 200 บาท แล้วจึงมุ่งหน้าสู่ต้นน้ำชี ที่ ลำสะพุงเหนือ ศูนย์พิทักษ์ป่าภูเขียวที่ 5 สะพุงหนือ ก็พบกับกลุ่มทหารพราน ที่เดินทางมาตรวจ พื้นที่ และจับชาวบ้านที่ออกล่า สัตว์ป่า เสียค่าปรับกันไปตามระเบียบ


          คุณเมืองมนต์เล่าให้ฟังว่า ที่นี่มีโครงการจะสร้างเขื่อน โดยบริษัทของ ส.ส. เป็นผู้รับเหมาโครงการ ชาวบ้านก็จะเอาเขื่อน ( เคยมีคนให้สัมภาษณ์ จะอนุรักษ์ต้นไม้ ไส้เดือน หรือจะอนุรักษ์คนกันดี!!!! ) แต่ทางป่าไม้ ไม่ยอม และมีแนวโน้มว่า จะได้สร้างเขื่อนด้วย ทั้งๆที่ป่าไม้ ยังอุดมสมบูรณ์ และสภาพพื้นที่ ไม่เหมาะสมกับการสร้างเขื่อนด้วย สุดท้ายจะลงเอยกัน อย่างไร ก็คงต้องติดตามข่าว กันต่อไป เมื่อทีมงาน ได้รับฟังข่าวนี้แล้ว รู้สึกสลดใจ และตั้งใจ ต้องรีบทำงานวิจัยชิ้นนี้.. หลังจาก sampling ที่ลำสะพุงเหนือ เสร็จ พักทานข้าวเที่ยงตอน บ่าย 2 ที่ บ้านห้วยกุ่ม ขับรถผ่านมองเห็นร้าน ก๋วยเตี๋ยว มี 3 สาวนั่งอยู่ คุณอนุ สั่งหยุดแวะร้านนี้เลย คุณอนุก็จีบซะ (พึ่ง ม.6 เอง) ทั้งสาวไก่ สาวอ้อม และน้องของสาวไก่ แต่ติดใจ สาวไก่เสื้อลายเป็นพิเศษ ทั้งคุณประยุทธิ์ และคุณอนุ จากนั้น จึงมุ่งหน้าสู่ บ้านโหลน ศูนย์พิทักษ์ป่าภูเขียวที่ 6 บ้านโหลน


เพื่อสำรวจ ต้นน้ำชี ตอนแรกไปดูน้ำชี ที่ข้างๆศูนย์ ฯ เป็นลำธารกว้าง ลักษณะลำน้ำสวยมาก แต่ทีมงานต้องการลำน้ำที่ ตื้นกว่านี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์จึง พานั่งรถขึ้นเขาไปอีก 4 กิโลเมตร ทางไปต้นน้ำชี ผุด ชีดั้น สองข้างทางเจอไฟป่า ทั้งหญ้าและต้นไม้ ดำเป็นตอตะโกตลอดเส้นทาง เจ้าหน้าที่เล่าว่า เมื่อวันก่อน มีชาวร้อยเอ็ดเหมารถ เดินทางมาดูต้นน้ำ ชี เพราะสงสัยว่า ทำไมแม่น้ำชี ที่ไหลผ่าน เขตร้อยเอ็ด ถึงแห้งขอด เลยอยากจะมาดูว่า ต้นน้ำชีเป็นยังไงบ้าง ก็ได้ไปดูกันถึง น้ำชีผุด น้ำชีดั้น ลอดถ้ำเข้าไปดูถึง ตาน้ำกันเลย และหลายๆคนได้เก็บน้ำใส่ขวด กลับไปด้วย เพราะน้ำชี ถือได้ว่า เป็นหัวใจหลักของ ชาวอีสานเช่นกัน และพื้นที่ป่าต้นน้ำ ภูเขียวก็ถือ เป็นหัวใจของภาคอีสาน เช่นกัน ควรจะร่วมกันอนุรักษ์ไว้ทุกๆฝ่าย ถ้าถูกทำลาย น้ำแห้งหมดแน่ ทีมงานได้เดินทางไปเก็บตัวอย่างที่ บริเวณลำน้ำเพียวและลำน้ำชี ไหลมาบรรจบกัน รวมเป็นลำน้ำชีสายเดียว ไหลหล่อเลี้ยงชาวอีสาน อาหารค่ำ ทำต้มไก่ สูตรเด็ดของ คุณอนุ เป็นที่ติดอกติดใจ ของ เจ้าหน้าที่และทีมงานเป็นอันมาก คุณประยุทธิ์ท่านกินได้ ไม่เท่าไหร่ก็อิ่มเร็วก่อนใคร รู้สึกจะกระเพาะเล็กกว่าใครเพื่อน มีคำร่ำลือว่า ใครอาบบน้ำชีข้างศูนย์ฯ จะได้แฟนเป็นคนเมืองนี้แหละ คุณเมืองมนต์และนายอาษา เลยไปอาบซะเลย ดึกๆ ฝนตกอีกตามเคย นอนกางเตนท์ในอาคารศูนย์ ฯ หลับสบายแฮ          

Page 1, 2, 3


ประมวลภาพการเดินทางไปเก็บตัวอย่างทั้งหมด 75 ภาพ!!


Wetlab Ring
Prev 5 | Previous | Next | Next 5 | Random | List |
join Wetlab Ring, click here!